เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์จะต้องเคยได้ยินชื่อของ VK กันมาแล้วบ้าง ซึ่งมักจะโผล่ให้เห็นตามสื่อต่าง ๆ บนโลกโซเชียลอยู่พอสมควร แม้จะไม่ค่อยเป็นที่คุ้นชิน แต่นี่คือหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ออกแบบให้เป็นโซเชียลมีเดียรูปแบบหนึ่งของประเทศรัสเซีย ใครที่สนใจอยากลองเข้าไปใช้งาน ลองมาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น พร้อมวิธีสมัคร ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองกันดีกว่า
VK คืออะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง?
VK เป็นคำย่อมาจาก VKontakte ซึ่งอ่านว่า โวฟคอนทักเท เป็นโซเชียลมีเดียของประเทศรัสเซีย หรือเรียกได้ว่านี่คือสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้งานคล้าย ๆ กับ Facebook โดยมีฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถโพสต์ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, แชร์คอนเทนต์ ไปจนถึงการแชทตอบโต้ และการส่งไฟล์ต่าง ๆ ให้กันได้ด้วย
แม้ชื่อเสียงในประเทศไทยจะไม่โด่งดังมากนัก แต่ในประเทศรัสเซียและประเทศในสหภาพโซเวียตบางประเทศใช้งานกันอย่างแพร่หลาย มีการสำรวจจำนวนบัญชีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านบัญชีเลยทีเดียว จนนับได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับ 16 ของโลกเลยทีเดียว การก่อตั้งเกิดขึ้นในปี 2004 และเริ่มพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันให้ใช้งานได้ไม่นานนี้เอง
บางคนก็จำกัดความเว็บฯ นี้ว่าเป็นเฟสบุคสายเทา เพราะการแชร์ข้อมูลค่อนข้างอิสระ ไม่มีการเซนเซอร์ แน่นอนว่ามีกลุ่มลับสำหรับชุมชน 18+ อยู่ด้วย แต่ก็มีด้านดีคือการได้เปิดโลกพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ ได้เห็นวัฒนธรรมของผู้คน และได้แลกเปลี่ยนภาษาระหว่างกัน
ดังนั้นจึงเป็นเหมือนดาบสองคมในการใช้งาน ทั้งนี้ VK ถือว่าเป็นความสำเร็จของรัสเซีย ซึ่งผู้ใช้งานไม่ได้มีแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังค้นพบสมาชิกจากทั่วโลกอีกเป็นจำนวนมากเข้ามาพูดคุยและแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์คนี้มีจำนวนการค้นหาและดาวน์โหลดมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าในอนาคตอาจกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้ใช้งานที่เข้ามาเป็นคู่แข่งเจ้าใหญ่ ๆ ก็เป็นได้
วิธีสมัคร VK ในคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนสมัคร VK ด้วยคอมพิวเตอร์ ทำได้ไม่ยาก ด้วยการสมัครผ่านหน้าเว็บไซต์ปกติ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ www.VK.com โดยจะมีภาษาไทยให้เลือก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะอ่านไม่ออกแต่อย่างใด
- ทำการลงทะเบียนด้วย “หมายเลขโทรศัพท์” ซึ่งรหัสของประเทศไทยคือ +66 ด้วยการกดไปที่ปุ่มสีเขียวคำว่า “ลงทะเบียน” หน้าต่างจะพาเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ที่ให้กรอกเบอร์โทรศัพท์ เริ่มต้นด้วยตัวเลข +66 แทนเลข 0
- ระบบจะมีการโทรเข้ามาซึ่งเป็นระบบ 2-step verification เพื่อความปลอดภัย ซึ่งหมายเลขดังกล่าวจะเป็นการโทรและวางสายไป ไม่สามารถรับสายได้ ให้ใช้ตัวเลข 4 ตัวสุดท้ายของเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นรหัสนำมากรอก จากนั้นกด “ไปต่อ“
- ทำการกรอกรายละเอียดข้อมูลของคุณ ซึ่งจะเป็นชื่อจริง นามสกุล วันเกิด และเพศ โดยจะใช้เป็นชื่อภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ จากนั้นกด “ต่อ“
- เว็บไซต์จะพาเข้าสู่หน้าตั้งรหัสผ่าน ให้ทำการกรอกรหัสผ่านที่คุณต้องการ ให้เหมือนกันทั้งสองบรรทัด แล้วกด “ต่อ“
- หน้าต่างจะปรากฏข้อมูลให้ Sync เพื่อนจากเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่ เราจะเลือกเชื่อมต่อหรือไม่ก็ได้ หากไม่ต้องการเชื่อมต่อให้ใครรู้ กดที่ปุ่ม Skip
- จากนั้นหน้าเว็บไซต์จะพาเราไปที่หน้าหลักของ VK ซึ่งทำการ Login เป็นที่เรียบร้อย หน้าตาจะเหมือนกับ Facebook ดังนั้นจึงเข้าใจได้ไม่ยากสำหรับการใช้งาน
วิธีสมัคร VK ในโทรศัพท์มือถือ (พร้อมวิธีดาวน์โหลด App VK)
การสมัคร VK ผ่านมือถือ สามารถทำได้ด้วยการสมัครในเบราว์เซอร์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาสมัครก็ได้ ซึ่งจะสะดวกมากกว่า ดังนั้นขั้นตอนต่อไปนี้ จะเป็นวิธีสมัครผ่านแอปฯ ซึ่งทำได้ง่าย และมีขั้นตอนไม่ต่างจากการสมัครผ่านคอมพิวเตอร์เท่าใดนัก
- ทำการดาวน์โหลด App VK ได้ง่าย ๆ กรณีที่เป็นมือถือแอนดรอยด์ ให้เข้าไปที่ Play Store ส่วน iPhone ให้เข้าไปที่ App Store ทำการค้นหาด้วยคำว่า VK จะพบตัวแอปฯ แสดงขึ้นมา ทำการดาวน์โหลดด้วยการกด Install รอจนกระทั่งติดตั้งเสร็จ ให้กดเปิดเข้าไปเพื่อเริ่มต้นลงทะเบียน (ในการสมัครผ่านมือถือจะไม่มีภาษาไทยให้เลือก หน้าต่างจะถูกบังคับใช้ภาษาอังกฤษ)
- กดคำว่า Sign Up เพื่อทำการกรอกเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งถ้าเป็นประเทศไทยให้เลือก +66 นำหน้าแทนเลข 0 เช่นกัน จากนั้นตามด้วยเบอร์ตัวอื่น ๆ แล้วกด “Continue“
- จะมีสายโทรมาจากต่างประเทศ เช่นเดียวกับการสมัครผ่านคอมฯ ที่ไม่สามารถรับสายได้ เพียงแค่กรอกตัวเลข “4 ตัวสุดท้ายของเบอร์” ดังกล่าวลงไป แล้วกด “Continue“
- จากนั้นทำการกรอกชื่อและนามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ กรอกวันเกิด เพศ และสามารถเลือกตั้งรูปโปรไฟล์ได้เลยในขั้นตอนนี้ ด้วยการกดไปที่รูปกล้อง เพื่อเลือกภาพจากมือถือ หรือถ่ายภาพที่ต้องการได้เลยในเวลานั้น หลังจากกรอกเสร็จแล้วให้กด “Continue” เพื่อไปยังหน้าถัดไป
- ทำการตั้งรหัสผ่านด้วยการกรอกรหัสให้ตรงกันทั้งสองช่อง แล้วกด “Continue“
- แอปฯ จะพาเข้าสู่หน้าต่าง Sync เพื่อนในมือถือ สามารถกดรับหรือ Skip ได้ตามต้องการ
- เพียงเท่านี้การสมัครผ่านมือถือด้วยแอปพลิเคชันก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถใช้งานได้ทันที
เช็คก่อนใช้งาน! จุดเด่น ข้อดี-ข้อเสีย VK ที่ต้องรู้เอาไว้
จุดเด่นที่ถูกพูดถึงกันมากก็คือความน่าสนใจแปลกใหม่ที่คนเบื่อโซเชียลมีเดียแบบเดิม ๆ สามารถเปลี่ยนไปเปิดหูเปิดตาคุยกับผู้คนจากต่างประเทศมากขึ้นได้ แต่กระนั้นก็ยังถือว่ามีจุดดีและจุดด้อยที่ควรรู้เอาไว้ด้วย
- ข้อดีของการใช้งาน VK
โดยข้อดีหลักของ VK คือ ความอิสระในการเปิดเผยที่ค่อนข้างสูง การเซนเซอร์แทบจะไม่มีเลย แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกดูอะไรเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ระบบอัลกอริทึ่มทำการจัดอันดับฟีดที่คุณสนใจขึ้นมาให้เอง เหมือนกับคนที่ชอบดูคลิปทำอาหาร ฟีดเกี่ยวกับอาหาร และวิธีทำก็จะแสดงขึ้นมามากกว่า
- ข้อเสียของการใช้งาน VK
เนื่องจากระบบไม่มีการคัดกรองที่ดี ทำให้ใครก็ได้สามารถโพสต์เรื่องที่ดีและไม่ดีได้อย่างอิสระมาก ๆ เช่น คลิปหลุด, สื่อลามก, ภาพเปลือย ไปจนถึงกลุ่มลับเฉพาะ และยังมีมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดีจำนวนมากแฝงตัวอยู่เพื่อคอยหลอกเหยื่อที่มีเผลอไว้ใจไปเรียกค่าไถ่ หรือหลอกไปข่มขืนก็มี
ปัญหาการสมัคร VK ไม่ได้ ส่วนใหญ่เกิดจากอะไร?
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในการสมัคร VK แล้วไม่สำเร็จ เกิดขึ้นได้จากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- เกิดจากการที่กรอกเบอร์โทรศัพท์ผิด
ในหน้าต่างสมัครสมาชิก จะต้องจำเอาไว้เสมอว่าให้ตัด 0 ตัวหน้าออกเสมอ แล้วแทนที่ด้วย +66 เพื่อระบบจะได้ทำการโทรเข้ามาได้อย่างถูกต้อง และเช็คให้ดีว่าเบอร์ที่กรอกไปนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ผิดพลาด และไม่สามารถสมัครซ้ำได้ทันทีในเวลานั้น
- เบอร์ถูกใช้งานไปแล้ว
หากกรอกเบอร์สมัครสมาชิกแล้วแสดงข้อมูลว่าเบอร์ถูกบล็อก หรือถูกใช้งานไปแล้ว อาจมีคนนำเบอร์ไปใช้ หรือเบอร์ที่ซื้อมาใช้นั้นเป็นเบอร์ที่เคยใช้งานมาแล้ว วิธีแก้ไขคือให้ทำการเปลี่ยนเบอร์สมัครใหม่
- เข้าใจการกรอกรหัส Code ผิด
เนื่องจากระบบมีการป้องกันความปลอดภัย จึงต้องสมัครสมาชิกด้วยเบอร์โทรศัพท์ เมื่อกดรับสายที่โทรเข้ามาแล้ว สายจะตัดทันที คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าจะต้องรอ SMS แต่จริง ๆ แล้วจะต้องทำการกรอกเบอร์โทรศัพท์ 4 ตัวสุดท้ายที่โทรเข้ามานั่นต่างหาก
วิธีกู้รหัสผ่านเมื่อ VK Login ไม่ได้ แก้ไขรวดเร็ว ทำได้ด้วยตัวเองไม่ยาก!
- เมื่อจำรหัสผ่านไม่ได้ และกรอกรหัสผิด ระบบจะแจ้งเตือนหน้าต่าง Pop-up ว่ารหัสดังกล่าว Error ขึ้นมา
- กดไปที่คำว่า OK แล้วหน้าต่างดังกล่าวจะหายไป จากนั้นให้สังเกตที่ช่องกรอกรหัสผ่าน จะมีสัญลักษณ์คำถาม “?” อยู่ ให้กดไปที่สัญลักษณ์เพื่อทำการกู้รหัส
- คลิกไปที่ “ฉันไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ” ที่ปรากฏขึ้นมา
- ระบบจะให้เราแก้ไขปริศนาด้วยการเลือกภาพที่ถูกต้องบนหน้าจอให้ถูกต้องตามคำที่ปรากฏขึ้นมา จากนั้นกด “ยืนยัน“
- เพื่อยืนยันตัวตน ระบบจะให้เราใส่ Last Name ที่ปรากฏอยู่บนโปรไฟล์ ระบบจะนำไปยังหน้ากรอกรหัสผ่านใหม่ เพื่อ restore บัญชี แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
- กรณีจำไม่ได้ให้กดไปที่คำว่า “I don’t remember the last name” ระบบจะส่งเราไปยังหน้าต่อไปคือกรอก Profile Link แล้วทำการค้นหาในช่อง Search แทน เมื่อเลือกได้ถูกต้อง ระบบก็จะทำการส่งรหัสผ่านตามมาให้ในภายหลัง แค่นี้ก็เข้าใช้งานได้แล้ว
- กรณีที่ใครจำข้อมูลข้างต้นไม่ได้เลย หากมีการยืนยันอีเมลเอาไว้ในระบบ สามารถเข้าไปทำการยืนยันด้วยอีเมลสำรองเพื่อกู้คืนบัญชีได้ ด้วยการกรอกอีเมลที่ยืนยันไว้กับ VK จะมีลิงก์ส่งไปให้ สามารถกดลิงก์ดังกล่าวเพื่อทำการแก้ไขเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ แล้วกด Update ก็สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน (หากใครยังไม่มี Email แนะนำให้ใช้ของ Gmail สามารถดูวิธี สมัคร Gmail ได้ที่นี่)
จะเห็นได้ว่าการ สมัคร VK นั้นไม่ยุ่งยาก แถมยังเปรียบเสมือน Social Network ออนไลน์ทางเลือกสำหรับคนที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ แม้จะยังไม่โด่งดังมากนัก แต่ด้วยจำนวนผู้ใช้งานก็ถือว่าไม่แย่อย่างที่คิด