เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ไร้สาย เป็นบลูทูทกันไปหมด คงเพราะเบื่อกับความระโยงระยางพันกันไปมาของสารพัดสาย ทั้งสายชาร์จ และสายหูฟัง นอกจากจะรำคาญแล้วยังมีลืม ลุกขึ้นจากคอมพิวเตอร์แบบมีหูฟังเสียบอยู่กับหู คือสารพัดจะรำคาญในวันที่ชีวิตต้องวุ่นวายอยู่กับสายยาว ๆ พวกนี้ โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ความคิดแรกของคนส่วนใหญ่คือ ต้องซื้อใหม่ อย่างเช่นเรื่องนี้เลย หูฟังบลูทูธ ดังข้างเดียว ซึ่งพอเราเสิร์ชกูเกิลดูจะพบว่า อะไรๆก็รีเซต ก็ถ้าหากรีเซตแล้วไม่หายล่ะ มาดูสารพัดวิธีที่เราไปค้นหามาฝากดีกว่า เผื่อว่าจะช่วยคุณที่ประสบกับปัญหา หูฟังบลูทูธดังข้างเดียว ได้ผล ไม่ต้องซื้อใหม่ มาลองวิธีเหล่านี้กันดูก่อน
ข้อดีของหูฟังบลูทูท คือ
เราไม่ต้องอยู่กับโทรศัพท์นาน ๆ เดินไปเดินมาได้ทั่วในระยะไม่เกิน 10 เมตร บางทีอาจได้มากกว่านิดหน่อย ถ้าใช้หูฟังดี ๆ มีแบรนด์ นอกจากเสียงจะดี สัญญาณดี แล้วยังทนกว่าของถูก เราก็เลยยอมลงทุนราคาหลักพัน หรือหลักร้อยแบบที่ลดราคาลงมาจากเป็นพัน
แต่การซื้อของก็เหมือนกับ ตาดีได้ตาร้ายเสีย เป็นบางครั้ง
แม้จะเป็นของแพง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน เป็นปัญหาที่ไม่รู้ว่าของพัง หรือเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เราไม่เข้าใจ อาจแก้ไขได้ง่ายไหม ยังไงก็ต้องลองดูก่อน เพราะคืนได้ เคลมได้ก็จริง แต่อุตส่าห์รอมานานจนของมาถึง ดันใช้งานไม่ได้อย่างใจ ถ้าต้องเปลี่ยนของ ก็ต้องรออีก มันน่าเบื่อก็ตรงการรอคอยไม่ได้ใช้ของเสียทีนี่แหละ
ปัญหาหนึ่งที่เจอกันบ่อยมากก็คือ Earbuds ดังข้างเดียว หรือ หูฟังบลูทูธดังข้างเดียว นี่แหละ
ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ คือ
การเชื่อมต่อมีปัญหา
วิธีแก้คือ
ขั้นตอนที่ 1 ยกเลิกการเชื่อมต่อ จากอุปกรณ์ที่เรากำลังเชื่อมต่อ คือจากโทรศัพท์ ไอแพด แท็บเล็ต หรือว่าคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนที่ 2 กดปิด หรือกดรีเซ็ตที่ตัวหูฟังทั้งสองข้าง
ขั้นตอนที่ 3 เก็บหูฟังเข้าเคส เพื่อรีเซ็ต
ขั้นตอนที่ 4 นำหูฟังออกมาจากเคส แล้วกดเปิด ก่อนจะเปิดการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ
ตอนนี้หูฟังทั้งสองข้างควรจะมีเสียงแล้ว ถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้ หูฟังบลูทูทดังข้างเดียว อยู่เหมือนเดิมก็ให้ไปที่วิธีถัดไป
ไปเช็ค Balance ของ Earbuds ทั้งสองข้างหน่อยซิ
ขั้นตอนที่ 1 เชื่อมต่อหูฟังบลูทูทกับคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนที่ 2 เปิด setting หรือการตั้งค่า ใครไม่รู้ว่า setting อยู่ตรงไหน ให้ไปที่แว่นขยายติดกับเครื่องหมายวินโดวส์ ซ้ายมือ ล่างสุด แล้วคลิก จากนั้นให้พิมพ์ setting ก็จะปรากฏรูปเฟือง setting หรือการตั้งค่า สีน้ำเงินขึ้นมา คลิกได้เลย จากนั้นให้ดูว่า Out put device และ Input device เป็นชื่อแบรนด์หูฟังของเราหรือเปล่า คลิกเลือกให้ใช่ แล้วไปที่ sound control panel ขวามือ
ขั้นตอนที่ 3 เมื่อเราคลิกที่ sound control panel แล้ว จะปรากฏหน้าต่าง sound อันเล็กขึ้นมา ให้เลือกดับเบิลคลิกที่อุปกรณ์ของเรา ตามรูป จากนั้นคลิกเข้าไปที่ Level แล้วคลิก balance ตามลูกศร จะเห็นว่าเราตั้งค่า Earbuds สองข้างเปิดเสียงทั้งคู่หรือเปลา ดังเท่ากันไหม ปรับได้เลย จากนั้นคลิก apply และ ok ตามลำดับ
ถ้าเป็นตามรูปตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า balance ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็จะเริ่มปวดหัวนิด ๆ เริ่มใจไม่ดี สงสัยต้องมีเปลี่ยนของหรือคืนเงินกันแน่แล้ว อ้ะ ไม่เป็นไร ไปลองดูตรงอื่นกันต่อ
เช็คดูหน่อยว่าไปตั้งค่าเป็น Mono audio ไว้หรือเปล่า เพราะถ้าตั้งค่าอันนี้เอาไว้ มันจะทำให้ หูฟังบลูทูทดังข้างเดียว
ไปที่ setting หรือการตั้งค่า แล้วพิมพ์ตรงช่องค้นหาว่า hearing แล้วเลือก turn mono audio on or off ซึ่ง mono audio คือการที่เราเปิดช่องสัญญาณของหูฟังไว้ข้างเดียวนั่นเอง คือถ้าตรงนี้เปิดอยู่ก็ให้ปิด
ถ้า ณ จุดนี้ยังไม่สำเร็จ ก็ไปอัปเดต Driver กันดูหน่อยสิ
เปิด Device manager ขึ้นมา
ถ้าทำไม่เป็นก็ให้พิมพ์คำนี้ที่ช่องค้นหาข้างโลโก้ Windows สีฟ้าซ้ายมือล่างสุด แล้วคลิกเข้าไป ทำตามภาพตัวอย่างเลย โดยให้คลิกขวาที่ชื่ออุปกรณ์ของเราที่เราจะอัปเดต เมื่อคลิกขวาแล้วจะปรากฏหน้าต่างเล็ก ๆ ให้เราเลือก Search automatically for driver จนเสร็จแล้วก็ปิดหน้าต่างไป
ให้ไปคลิกขวาที่ Bluetooth (หมายเลข4) เพื่ออัพเดตไดรฟ์เวอร์ด้วย ทำเหมือนหมายเลข 2 และ 3
เอาหละ เมื่อครบสิ้นทุกสิ่งแล้ว ยังทำอะไรไม่ได้ แนะนำว่าให้เคลมได้เลย ง่ายที่สุด ในกรณีที่ซื้อออนไลน์ อันนี้จะเซ็งหนักหน่อย เพราะกว่าจะคืนสินค้า กว่าสินค้าจะไปถึงร้าน กว่าร้านจะตรวจสอบแล้วพิจารณาส่งตัวใหม่มาให้เรา นี่คือข้อเสียของการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม shopping ที่ไม่ใช่จะเกิดปัญหาคืนสินค้ากันบ่อย ๆ แต่ถ้าโชคร้ายโดนกับตัวนี่คือ…เชื่อเถอะว่า…ยังไงก็ไม่เข็ดแน่นอน เพราะ Shopaholic มันอยู่ในสายเลือด
กรณีที่โชคดีถ้าครั้งนี้ซื้อผ่านร้านค้าที่มีหน้าร้านใกล้ ๆ บ้าน ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณสามารถไปเคลมที่นั่นได้ ซึ่งก็อาจไม่ต้องเคลมด้วยซ้ำ ร้านค้าอาจมีคำแนะนำว่าต้องทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย พนักงานอาจช่วยคุณได้ สบายไป
อย่างไรก็ตาม จงอย่าสิ้นหวังกับวิถีชีวิตไร้สาย เพราะคุณจะต้องอยู่กับชีวิตแบบนี้ไปอีกทั้งชีวิตอย่างแน่นอน